
จากเคสสุนัขโดนงูเห่ากัด
กรณีศึกษา ปังปัง สุนัขพันธุ์ French bulldog
เจ้าของพาน้องปังๆมาด้วยอาการ เสียงแหบ ขาเจ็บ และอาเจียน
เมื่อคุณหมอถามประวัติก็พบว่า เมื่อคืนสุนัขวิ่งไล่งู แต่ไม่ทราบชนิดและไม่แน่ใจว่าโดนกัดไหม
ตอนเช้ามาเริ่มมีอาการอ่อนแรง เสียงแหบ กินอาหารก็อาเจียน
ตรวจร่างกาย พบว่า น้องมีอาการหายใจลำบาก เยื่อเมือกสีคล้ำ น้ำลายไหลมาก ยืนไม่ไหว
แต่ยังรู้สึกตัวอยู่ ใต้ท้องรอยจุดดำๆ บวมเล็กน้อย ไม่ยอมให้จับ
การรักษา สุนัขได้รับเซรุ่มต้านพิษงูเห่า ได้รับยาลดอักเสบและยาปฏิชีวนะ ยาลดการทำลายสารสื่อประสาท
ป้อนอาหารโดยระวังไม่ให้สำรอกและสำลัก อยู่ในกรงที่มีออกซิเจนและได้รับน้ำเกลือเข้าเส้นเลือด
ในวันรุ่งขึ้น ไม่พบอาการอาเจียน สุนัขสามารถทรงตัวได้ แต่ยังหอบอยู่ และสามารถเดินได้ในวันถัดไป
เจ้าของรับกลับไปดูแลป้อนยาต่อที่บ้าน
เมื่อกลับมาตรวจติดตามอาการ สุนัขร่าเริงดีและสามารถหยุดยาได้ โดยไม่มีอาการอื่นๆ ข้างเคียง
เกร็ดความรู้และคำแนะนำ
สาเหตุของการอ่อนแรง หายใจลำบาก อาเจียน เสียงแหบในครั้งนี้เกิดจากอาการกลุ่มสารสื่อประสาทผิดปกติ มีสาเหตุหลายอย่าง แต่ในกรณีนี้มีประวัติว่าสุนัขวิ่งไล่งู และพบรอยบวมใต้หน้าอก คาดว่าสุนัขจะได้รับพิษงู
ซึ่งเป็นพิษต่อระบบประสาท จึงทำให้มีอาการดังกล่าว
พิษงูเห่าเป็นพิษต่อระบบประสาท โดยสุนัขที่มามักมีอาการช็อกเฉียบพลัน ขึ้นอยู่กับปริมาณพิษและระยะเวลา
ที่ได้รับพิษ ดังนั้นในกรณีที่เจ้าของเห็นว่าสุนัขเล่นกับงูสิ่งที่ควรทำ คือ
1.จดจำบันทึกลักษณะงูที่พบ เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการรักษา โดยเซรุ่มต้องให้ตรงกับชนิดงูจึงจะได้ผล
2.รีบนำสุนัขส่งโรงพยาบาล เพราะพิษงูบางชนิดไม่สามารถรอได้
3.ควรมีข้อมูลของโรงพยาบาลสัตว์หรือคลินิกใกล้บ้านไว้ เมื่อเกิดเหตุให้โทรแจ้งสถานพยาบาลนั้นๆเพื่อให้คุณหมอเตรียมยาและการรักษาได้อย่างทันท่วงที
4.หมั่นดูแลพื้นที่ในบ้านและบริเวณบ้านไม่ให้รก เพราะจะเป็นที่อยู่ของหนู และงูตามมา
สพ.ญ.ปิโยรส โพธิพงศธร
แผนกระบบประสาท, แผนกอายุรกรรม, แผนกศัลยกรรม
โรงพยาบาลสัตว์ตลิ่งชัน