Menu Close

HOW TO อาบน้ำน้องหมาอย่างไรให้โปรเหมือนไปที่ร้าน

การอาบน้ำให้สุนัขเจ้าของทุกคนจะมองว่าเป็นเรื่องเล็ก ๆ ไม่ได้ เพราะบางครั้งการอาบน้ำไม่ถูกวิธีก็เป็นปัญหาสำคัญที่ทำให้น้องหมามีอาการระคายเคืองหรือผิวแพ้ได้ วันนี้เราจึงขอมาแชร์วิธีการอาบน้ำสุนัขแบบฉบับมือโปร เผื่อว่าใครอยากอาบน้ำให้น้องหมาจะได้ทราบวิธีอาบน้ำสุนัขที่ถูกต้องเหมือนพาน้องไปที่ร้าน รับรองว่าอ่านแล้วจะรู้สึกเลยว่าการอาบน้ำให้น้องหมาง่ายนิดเดียว!

สุนัขอาบน้ำได้บ่อยแค่ไหน

สำหรับหลายคนที่สงสัยว่าโดยปกติแล้วน้องหมาควรอาบน้ำกี่ครั้ง จริง ๆ แล้วควรอาบน้ำให้เขาทุก 1-2 สัปดาห์ก็เพียงพอแล้ว เนื่องจากการอาบน้ำด้วยแชมพูสุนัขจะมีผลในการชะล้างไขมันที่ร่างกายสุนัขสร้างขึ้นมาเคลือบผิวหนังและเส้นขน การอาบน้ำบ่อยเกินไปจึงมีผลทำให้ผิวและเส้นขนของเจ้าตูบแห้ง ขาดความเงางาม และอาจทำให้น้องหมามีอาการคัน แต่ถ้าจำเป็นต้องอาบน้ำบ่อย ๆ ควรเลือกแชมพูที่เป็นแบบ soap-free เพราะสารทำความสะอาดในตัวสบู่จะเป็นตัวกำจัดไขมันออกไป ทำให้ผิวหนังของสุนัขแห้งได้

ในกรณีที่สุนัขมีปัญหาสะเก็ดรังแคและผิวมันเยิ้ม อาจพาน้องหมาอาบน้ำบ่อยขึ้นเป็นทุก ๆ 3-4 วันแทน โดยใช้แชมพูยาเพื่อลดรังแคและความมัน เมื่อผิวมันลดลงแล้วก็ปรับมาอาบน้ำทุก 1-2 สัปดาห์

การเลือกใช้แชมพูให้เหมาะกับผิวหนังสุนัข

ก่อนจะเริ่มอาบน้ำ เรามาดูกันก่อนดีกว่าว่าควรใช้แชมพูแบบไหนกับเจ้าตัวแสบของเรา การเลือกแชมพูสำหรับสุนัขโดยทั่วไป โดยเฉพาะในลูกสุนัขหรือสุนัขที่ผิวบอบบาง มีโอกาสแพ้ง่าย ให้เลือกสูตรอ่อนโยนที่มีโอกาสก่อให้เกิดความระคายเคืองน้อย (โดยมากมักเขียนที่ข้างขวดว่า Hypoallergenic) และเลือกแชมพูที่ผสมมอยซ์เจอร์ไรเซอร์สูงเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหนัง ไม่ควรใช้แชมพูที่ผสมยากำจัดเห็บหมัดในลูกสุนัขและสุนัขที่สุขภาพอ่อนแอ เนื่องจากมีโอกาสเกิดความเป็นพิษได้ ส่วนสุนัขที่มีปัญหากลิ่นตัวจากโรคผิวหนังนั้นให้เลือกแชมพูสูตรที่ลดการแพ้ร่วมกับการใช้แชมพูยาที่สัตวแพทย์เลือกให้

อีกสิ่งที่สำคัญคือไม่ควรใช้แชมพูสระผมของคนมาอาบน้ำให้สุนัข เนื่องจากค่าความเป็นกรดด่างของผิวหนังคนกับสุนัขมีค่าไม่เท่ากัน การใช้แชมพูคนในช่วงแรก เจ้าของอาจไม่รู้สึกว่าผิวหนังของน้องหมามีปัญหา แต่เมื่อใช้ไปนาน ๆ ก็จะทำให้ผิวหนังของเขาขาดความสมดุลและโครงสร้างผิวหนังเสียหาย ก่อให้เกิดโรคผิวหนังตามมาได้

วิธีการอาบน้ำสุนัขอย่างถูกวิธี

อาบน้ำให้ลูกรักทั้งที เจ้าของจะมาอาบแบบล้าง ๆ ตัวให้จบไปไม่ได้เลยนะ ควรเริ่มจากการใช้น้ำเปล่าราดตัวสุนัขให้เปียก จากนั้นเจือจางแชมพูกับน้ำสะอาดเล็กน้อยก่อนราดลงบนตัว ไม่ควรเอาแชมพูสุนัขเข้มข้นราดบนหลังสุนัขโดยตรงเพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังบริเวณนั้นได้ 

ข้อควรระวังคือตอนอาบน้ำไม่ควรใช้เล็บเกาผิวหนังสุนัขแรง ๆ เพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังได้ ควรใช้วิธีนวดคลึงผิวหนังหรืออาจใช้แปรงอาบน้ำที่ทำจากยางนวดเบา ๆ ก็ได้ และน้ำที่ใช้อาบสุนัขควรใช้น้ำอุ่น เพราะน้ำอุ่นจะทำให้หลอดเลือดขยายตัว ส่งผลให้เกิดการระคายเคืองมากขึ้น สุนัขก็จะคันมากขึ้นด้วย 

หลังจากฟอกตัวน้องหมาด้วยแชมพูจนตัวหอมฟุ้งแล้ว ควรทำการล้างตัวโดยใช้เวลาอย่างน้อย 5 นาที เพื่อลดโอกาสที่น้องหมาจะระคายเคืองจากการล้างแชมพูออกไม่หมดและเพื่อให้ผิวหนังของเขาได้รับน้ำเพียงพอ เมื่ออาบน้ำเสร็จควรเช็ดตัวหรือเป่าให้แห้งทุกครั้ง เพราะหากปล่อยให้ผิวหนังชื้นอาจเป็นที่มาของโรคผิวหนังได้ และไม่ควรเป่าไดร์ด้วยลมร้อนเกินไป โดยเฉพาะสุนัขที่มีปัญหาผิวหนังควรใช้ผ้าเช็ดตัวเช็ดให้แห้งหรือใช้ลมเย็นเป่าเท่านั้น 

ในกรณีที่มีสุนัขมีปัญหาโรคผิวหนังหรือมีปัญหาภูมิแพ้ ควรใช้แชมพูที่สุนัขเคยใช้เป็นประจำก่อนมีปัญหาผิวหนังเพื่อล้างคราบสกปรกและฝุ่นที่ติดตามขนออกก่อนแล้วล้างออก จากนั้นจึงใช้แชมพูยาที่สัตวแพทย์แนะนำ โดยฟอกทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาทีให้แชมพูยาออกฤทธิ์ก่อน แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาดให้เกลี้ยง และเช็ดตัวเป่าขนให้แห้งได้เลย

การอาบน้ำให้สุนัขและการเลือกแชมพูให้เหมาะสม แม้จะดูเป็นเรื่องง่าย แต่ก็เป็นสิ่งที่เจ้าของไม่ควรละเลยวิธีการที่ถูกต้อง หากอาบน้ำอย่างถูกวิธีก็สามารถป้องกันโรคที่อาจจะเกิดกับสุนัขของเราได้ อีกทั้งเป็นการสร้างสุขอนามัยที่ดีต่อสุนัขและตัวของเราด้วย

———————————————————————————–

แหล่งอ้างอิง

สพ.ญ.อรญา ประพันธ์พจน์ สัตวแพทย์แผนกอายุรกรรม แผนกศัลยกรรม แผนกโรคหัวใจ ประจำโรงพยาบาลสัตว์ตลิ่งชัน