3.การรักษาตามอาการเพื่อพยุงอาการในแมวที่อาการไม่ดี
การให้สารน้ำเบื้องต้นและเกลือแร่สามารถทำได้ถ้าสภาพแมวมีภาวะขาดน้ำอย่างรุนแรง  หรือในกรณีที่แมวมีความผิดปกติของทางเดินอาหารสามารถให้วิตามินเพื่อเสริมการทำงานของของทางเดินอาหารได้ เช่น วิตามินบี12  หรือกรณีที่แมวไม่สามารถกลืนกินอาหารได้ด้วยตัวเองทำให้ไม่สามารถได้รับพลังงานจากอาหารได้อย่างเพียงพอจึงควรใช้วิธีสอดท่อเพื่อให้อาหารได้  เพราะถ้าเราไม่สามารถให้อาหารได้เพียงพอจะทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนอื่นๆตามมาได้ในภายหลัง

4.การตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติม
ในกรณีที่การรักษาที่กล่าวไว้แล้วแมวยังอาการไม่ดีขึ้น  ควรมีการวินิจฉัยอื่นๆเพิ่มเติม เช่น  การอัลตร้าซาวน์ช่องท้องเพื่อดูความปกติของอวัยวะภายในช่องท้องอย่างละเอียด เช่น ลำไส้ ตับอ่อน ตับ ท่อน้ำดี ไต ต่อมน้ำเหลืองในช่องท้อง หรือกรณีที่พบก้อนเนื้อผิดปกติภายในช่องท้องก็ควรมีการเก็บชิ้นเนื้อเพื่อตรวจวินิจฉัยเนื้องอกและมะเร็งต่อไป หรือใช้การส่องกล้องเพื่อวินิจฉัยทางเดินอาหารซึ่งสามารถทำได้ช่วงต้นของของทางเดินอาหารและช่องท้ายของทางเดินอาหาร  หรือบางกรณีแมวที่ผอมและน้ำหนักลดลงอาจเกิดจากการแพ้อาหารได้ซึ่งสามารถเปลี่ยนอาหารสูตรลดอาการแพ้ซึ่งเป็นสูตรที่จำเพาะได้และสังเกตอาการของแมวภายใน 1-2 สัปดาห์หลังจากปรับเปลี่ยนอาหาร