Menu Close

สะบ้าเคลื่อน โรคอันตรายในสุนัขที่ไม่ควรมองข้าม

ครอบครัวที่เลี้ยงสุนัขหลายคนอาจเคยได้ยินเกี่ยวกับโรคสะบ้าเคลื่อนกันมาบ้าง เพราะเวลาน้องหมาเป็นทีทำเอาเจ้าของกังวลไปตาม ๆ กัน บางตัวเดินแล้วยกขา บางตัวพออุ้มแล้วร้องเพราะเจ็บ เนื่องจากปัญหาสะบ้าเคลื่อนพบเจอได้บ่อยในสุนัขพันธุ์เล็ก เช่น ปอมเมอเรเนียน ชิวาวา ชิสุ ฯลฯ แต่สุนัขพันธุ์ใหญ่ก็สามารถพบปัญหานี้ได้เช่นเดียวกัน เพื่อให้ทุกคนหาทางรักษาและป้องกันได้อย่างถูกต้อง เรามาทำความรู้จักกับโรคสะบ้าเคลื่อนในสุนัขกัน

“สะบ้า” หรือ “ลูกสะบ้า” (patellar) คือ กระดูกที่มีลักษณะกลมรี แบน อยู่บริเวณหัวเข่า ตามปกติลูกสะบ้าจะวางอยู่บนร่องกลางหัวเข่า โดยมีเอ็นรวมของกลุ่มกล้ามเนื้อที่จะมายึดกับกล้ามเนื้อมาถึงเชิงกรานพาดผ่านคอยกักเก็บลูกสะบ้าให้อยู่ในร่อง เวลาน้องหมายืดหรือหดขา ลูกสะบ้าก็จะเคลื่อนที่ขึ้น – ลงไปมาในร่องดังกล่าว

โรคสะบ้าเคลื่อน (Patella luxation) ในสุนัข เป็นความผิดปกติของตำแหน่งลูกสะบ้าในท่าที่สุนัขอยู่นิ่งหรือเคลื่อนไหวก็ได้ สะบ้าที่ผิดปกติสามารถหลุดไปอยู่ได้ทั้งด้านนอกและด้านในของข้อเข่า โดยปกติแล้วลูกสะบ้าเป็นกระดูกอ่อนขนาดเล็ก ๆ ที่วางอยู่ในร่องของกระดูกเข่าทั้งสองข้าง และถูกยึดให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมด้วยกลุ่มเอ็นที่พาดผ่าน เมื่อมีการเคลื่อนไหวร่างกายจนขาหลังขยับตามนั้น กล้ามเนื้อขาหลังจะเกิดการยืดหดดึงเอ็นกล้ามเนื้อไปด้วย และลูกสะบ้าที่ถูกยึดด้วยเอ็นก็จะเคลื่อนขึ้นลงตามไปด้วย ดังนั้นจะเห็นได้ว่าการเคลื่อนไหวขาต้องประกอบด้วยปัจจัยหลายอย่างด้วยกัน แต่หากมีความผิดปกติเกิดขึ้นส่วนใดส่วนหนึ่งก็จะทำให้การเดินหรืออิริยาบถต่าง ๆ ของสุนัขดูผิดปกติไป ลักษณะสำคัญคือลูกสะบ้าซึ่งปกติจะอยู่ในร่องบริเวณหัวเข่ามีการเคลื่อนที่ผิดตำแหน่งและหลุดออกจากร่อง บางกรณีหลุดเข้าด้านในหัวเข่า บางกรณีหลุดออกไปด้านข้างของหัวเข่า ซึ่ง 80 – 90% มักหลุดเข้าด้านในมากกว่า

สาเหตุของโรคสะบ้าเคลื่อนในสุนัข

โรคสะบ้าเคลื่อนส่วนใหญ่เกิดจากกรรมพันธุ์ที่มีความผิดปกติของโครงสร้างหัวเข่า สุนัขส่วนใหญ่เลยเป็นโรคนี้ตั้งแต่กำเนิด นอกจากนี้การกระทบกระแทก การโดนรถชน หรือการโดนตี ก็ทำให้แนวการเจริญเติบโตที่ขาของสุนัขเสียหายได้ ส่งผลให้ขาของสุนัขคดงอและบิดเบี้ยว ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้สะบ้าหลุดได้เช่นกัน

เกรดระดับความรุนแรงของโรคสะบ้าเคลื่อนในสุนัข

เกรด 1 สุนัขยังไม่แสดงอาการ ลูกสะบ้ายังคงอยู่ในร่อง เวลาใช้มือจับดันสามารถเลื่อนหลุดออกมาได้ เมื่อปล่อยก็จะเด้งกลับมาอยู่ในร่องเดิมได้อยู่

เกรด 2 สุนัขเริ่มแสดงอาการเจ็บขาและเดินผิดปกติ เนื่องจากลูกสะบ้าเคลื่อนหลุดออกมาบ่อยครั้งขึ้น เวลาหลุดออกมาจะค้างอยู่บริเวณนอกร่อง  อาจพบกระดูกอ่อนที่ผิวข้อถูกทำลาย และทำให้เกิดโรคข้อเข่าเสื่อมตามมา

เกรด 3 สุนัขมีอาการเจ็บปวดและไม่สามารถยืดขาได้ จึงมักอยู่ในท่ายกขาหรืองอข้อเข่า ไม่ยอมลงน้ำหนัก เพราะลูกสะบ้าจะเคลื่อนหลุดออกมาตลอดเวลา อาจพบการบิดของกระดูกขาด้วยเช่นกัน

เกรด 4 สุนัขไม่สามารถเหยียดข้อเข่าและเดินขาลาก เกิดการเคลื่อนหลุดของลูกสะบ้าอย่างถาวร ไม่สามารถดันกลับได้แล้ว มักพบการบิดและการเจริญผิดปกติของกระดูกขา

ระดับความรุนแรง สะบ้าเคลื่อนในสุนัข

หากสุนัขเริ่มเป็นเกรดแรก ๆ เจ้าของอาจจะยังไม่พบอาการเพราะสุนัขยังคงเดินได้ปกติ แต่หากเขามีการเดินยกขา ขาบิด ร้องปวด หรือเหยียดข้อเข่าไม่ได้ ควรพามาพบสัตวแพทย์เพราะมีโอกาสที่สุนัขเป็นโรคสะบ้าเคลื่อนเกรดสูงแล้ว

วิธีการรักษาโรคสะบ้าเคลื่อนในสุนัข

การรักษาขึ้นอยู่กับเกรดความรุนแรงของโรค หากอาการยังไม่หนักจะใช้วิธีการรักษาทางยา ร่วมกับการทำกายภาพและควบคุมน้ำหนัก แต่ถ้ามีอาการตั้งแต่เกรด 2 ขึ้นไปจำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัด โดยวิธีการผ่าตัดมีหลายวิธี แต่ละวิธีมีจุดประสงค์เพื่อจัดแนวกระดูกสะบ้าให้อยู่ในร่องของกระดูกต้นขาหลัง

สัตวแพทย์ต้องตรวจดูว่าเอ็นภายในข้อเข่าหรือหมอนรองข้อเข่าฉีกขาดหรือไม่ ร่องหัวเข่ามีความตื้นลึกอย่างไร ถ้าตื้นมากก็ต้องศัลยกรรมให้ลึกขึ้น ซึ่งสามารถทำได้หลายเทคนิค เมื่อสามารถทำให้ลูกสะบ้ากลับเข้ามาอยู่ในร่องหัวเข่าได้ดังเดิมแล้ว ต้องพิจารณาแนวของกระดูกขาเป็นรายต่อไป เพราะหากขายังมีการโค้งงอ ในอนาคตก็จะดึงรั้งให้ลูกสะบ้าเคลื่อนหลุดจากร่องหัวเข่าได้อีก

การทำกายภาพบำบัดหลังการผ่าตัด

การกายภาพบำบัดมักจะทำในสุนัขที่หลังการผ่าตัดยังคงมีการเขย่งขาหรือลงน้ำหนักได้ไม่เต็มที่ เนื่องจากสุนัขเหล่านี้มีภาวะสะบ้าเคลื่อนเรื้อรังก่อนการผ่าตัด แต่สำหรับสุนัขที่ผ่าตัดแล้วผลออกมาดี มีการเคลื่อนไหวด้วยตัวเองได้ น.สพ.บูรพงษ์ สุธีรัตน์ (หมอตั๋ง) สัตวแพทย์แผนกระบบกระดูกและข้อต่อโรงพยาบาลสัตว์ตลิ่งชัน ได้ให้คำแนะนำว่า

“สำหรับการผ่าตัดที่โรงพยาบาลสัตว์ตลิ่งชัน ไม่ได้แนะนำว่าจะต้องมากายภาพ เพราะส่วนใหญ่สุนัขจะกายภาพด้วยตัวของเขาเองอยู่แล้ว เจ้าของไม่จำเป็นต้องเสียเงิน ในเมื่อเขาเดินได้ดีอยู่แล้ว แล้วก็เดินได้ดีด้วย ดังนั้นหลังการผ่าตัดจึงควรให้สุนัขได้ใช้ขาโดยทันที ปล่อยให้เขาเดินและใช้ขาให้ได้มากที่สุด”

แนวทางการป้องกันโรคสะบ้าเคลื่อนในสุนัข

1.หลีกเลี่ยงการเล่นที่อาจส่งผลต่อกระดูกข้อเข่า

2.ควบคุมน้ำหนักไม่ให้ไม่ให้อ้วนเกินไป

3.พาสุนัขออกกำลังกายเป็นประจำ

4.สุนัขอายุตั้งแต่อายุ 6 เดือนขึ้นไป สามารถพามาพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจอาการได้

โรคสะบ้าเคลื่อนเป็นโรคที่เจ้าของน้องหมาทุกคนไม่ควรมองข้าม เพราะส่งผลโดยตรงต่อการใช้ชีวิตของเจ้าตูบลูกรักของเราโดยเฉพาะน้องหมาพันธุ์เล็ก หากพบว่าน้องหมามีอาการที่เสี่ยงเป็นโรคสะบ้าเคลื่อน ควรรีบพามาพบสัตวแพทย์เพื่อจะได้รู้อาการเบื้องต้นและสามารถรักษาได้ทันท่วงที หรือสามารถพามาตรวจได้ตั้งแต่เขายังอายุน้อย ๆ นะคะ

———————————————————————————–

แหล่งอ้างอิง

น.สพ.บูรพงษ์ สุธีรัตน์ (หมอตั๋ง) สัตวแพทย์แผนกระบบกระดูกและข้อต่อโรงพยาบาลสัตว์ตลิ่งชัน

Pet MD. (2016). Patellar Luxation in Dogs Medical Diagram. Retrieved July 1, 2021, from Pet MD: https://www.petmd.com/dog/infographic/patellar-luxation-dogs-medical-diagram