กระต่ายเป็นสัตว์เลี้ยงอีกชนิดหนึ่งที่คนกำลังนิยมเลี้ยงกันเลย เพราะน้องทั้งน่ารัก แถมเลี้ยงก็ง่ายในความคิดของหลาย ๆ คน แต่ความน่ารักเลี้ยงง่ายจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเราได้น้องกระต่ายสุขภาพดีมาเลี้ยงนะคะ หากเราได้กระต่ายป่วยมารับรองยุ่งยากในการดูแลแน่นอน แต่จะรู้ได้อย่างไรว่ากระต่ายตัวไหนสุขภาพดี ลองมาดูคู่มือเบื้องต้นในการเลือกซื้อกระต่ายกัน
คู่มือเลือกซื้อกระต่าย
ตา : กระต่ายที่สุขภาพดีแววตาจะร่าเริงแจ่มใส ขอบตาจะไม่แห้ง ผิวบริเวณรอบดวงตาจะมองดูปกติ ส่วนกระต่ายที่ป่วยดวงตาจะเซื่องซึม ขอบตาแห้ง มีขี้ตา และมีสะเก็ด
จมูก : จมูกกระต่ายโดยปกติจะชุ่มชื้นเล็กน้อยและไม่แห้งกรัง ส่วนกระต่ายที่ป่วยจะมีอาการของหวัดคือ จมูกเปียกชื้นมากเกินไปหรือไม่ก็แห้งเกินไป
ฟัน : ฟันต้องไม่เบี้ยว ยื่น หรือเอียง เพราะปัญหาเหล่านี้จะทำให้กระต่ายกินอาหารไม่ได้ตามปกติ อีกทั้งเจ้าของยังต้องตัดฟันให้กับกระต่ายทุก ๆ 2 สัปดาห์ด้วย
หู : หูกระต่ายที่ดีต้องสะอาด ไม่มีคราบขี้หู ผิวหนังบริเวณขอบ ๆ ริมหูต้องไม่แข็งหรือตกสะเก็ด ขนต้องขึ้นปกติไม่มีส่วนไหนที่มองเห็นร่องรอยของขนร่วง ในรูหูของกระต่ายต้องปกติ ไม่มีก้อนหรือร่องรอยของเห็บไรที่อาจจะซุกซ่อนอยู่ได้
ท้อง : เวลาลูบท้องกระต่ายจะต้องไม่มีก้อนเนื้อแข็ง ๆ ที่ลูบแล้วสะดุดมือ ถ้ากระต่ายที่ป่วยอยู่ท้องจะแข็ง ๆ หรือมีก้อนอะไรบางอย่างสะดุดมือเรา อีกทั้งกระต่ายจะงอตัวจนผิดสังเกตุ (อาจเพราะความเจ็บปวด)
เท้า : เท้าคู่หน้าและคู่หลังต้องปกติ สามารถเดินและกระโดดได้อย่างดี เท้าคู่หลังต้องไม่มีอาการแบะ ถ่าง หรือเดินไม่สะดวก ขนใต้เท้าคู่หลังทั้งสองข้างต้องหนาและไม่มีแผลใต้เท้า ลองปล่อยให้กระต่ายวิ่งเล่นเพื่อดูอาการและการทรงตัวของกระต่ายด้วย
เล็บเท้า : นิ้วเท้า เล็บเท้า ต้องครบถ้วนสมบูรณ์ดีตามซอกเล็บต้องไม่มีร่องรอยของเชื้อรา กลาก หรือแผลใด ๆ หนังหุ้มเล็บต้องสุขภาพดี ไม่ตกสะเก็ดเป็นแผลอับเสบผื่นคัน
เส้นขน :กระต่ายสุขภาพดีต้องมีเส้นขนที่ไม่หยาบกร้าน ขนต้องนุ่มสลวย (ยกเว้นบางสายพันธุ์) ไม่หลุดร่วงง่าย มีความหนาแน่นของขน สีสันชัดเจนถูกต้องตามมาตรฐานสายพันธุ์ ผิวหนังใต้ขนต้องไม่มีสะเก็ดแผลผื่นคันหรือแข็งกระด้าง
ลำตัว : บริเวณลำตัวด้านหลังของกระต่ายเนื้อต้องแน่น เวลาคลำกระดูกสันหลังต้องไม่ปูดโปนกระต่ายจะต้องไม่อ้วนหรือผอมจนเกินไป บริเวณสะโพกต้องมีกล้ามเนื้อ สัมผัสด้วยมือแล้วจะรู้สึกถึงความสมบูรณ์ของลำตัวได้อย่างชัดเจน
ลักษณะโดยรวม : กระต่ายที่ดีจะต้องร่าเริง ตื่นตัวและดูแลทำความสะอาดตัวเองอยู่สม่ำเสมอกระต่ายที่ป่วยจะเซื่องซึม มองดูหงอย ๆ ไม่ค่อยขยับตัวไปไหน ควรเลือกกระต่ายที่มีการตื่นตัวสูงเพราะจะมีสุขภาพแข็งแรง
นอกจากการดูลักษณะทางกายภาพของกระต่ายแล้ว สิ่งสำคัญของการซื้อกระต่ายคือ ควรหลีกเลี่ยงการซื้อกระต่ายที่เด็กเกินไป
เหตุผลที่ไม่ควรซื้อกระต่ายเด็กมาเลี้ยง
1.ลูกกระต่ายเด็กที่เราซื้อมาเลี้ยงถ้าอายุยังไม่ถึง 1 เดือนน้องจะยังไม่มีภูมิคุ้มกันเพราะยังต้องการนมแม่อยู่ ทำให้ได้รับภูมิคุ้มกันจากแม่ไม่เต็มที่
2.ลูกกระต่ายยังไม่สามารถกินอาหารได้เนื่องจากยังไม่มีฟัน หรือหากมีฟันแต่ก็ยังไม่มีแรงพอที่จะกัดกินอาหารได้
3.ลูกกระต่ายบางตัวยังไม่ลืมตาเต็มที่ ขนที่ตัวยังเป็นขนอ่อน ขาอ่อนแรงเดินไม่มั่นคง
4.เมื่อซื้อกระต่ายเด็กมาเลี้ยง เราต้องให้นมแม่แทนแม่กระต่าย ทำให้กระต่ายปรับตัวไม่ทัน จึงอาจทำให้เกิดการท้องเสีย ป่วยง่าย และตายไว
วิธีสังเกตว่ากระต่ายที่เราซื้อมาเป็นกระต่ายเด็กหรือไม่
- ตัวเล็กประมาณ 1 ฝ่ามือ
- ลูกกระต่ายยังไม่ลืมตาเต็มที่
- ขนกระต่ายยังเป็นขนอ่อนเป็นขนที่ยังไม่ผลัดขน
- มีฟันเป็นจุดเล็ก ๆ สีขาว หากเห็นว่าลูกกระต่ายตอนอยู่ที่ร้านก็ก้มหน้ากินอาหารปกติอย่าพึ่งได้ใจเพราะลูกกระต่ายยังต้องการนมแม่ แต่ที่ร้านอาจไม่มีให้ มีแต่อาหารกับหญ้ากระต่ายที่หิวก็ต้องหาอะไรกินเอง เป็นสาเหตุที่ทำให้กระต่ายตายไวเนื่องจากปรับตัวไม่ได้เพราะยังกินอาหารไม่ได้
- กระต่ายมีท่าทางง่วงซึมไม่ร่าเริง
- ดูแหล่งที่เราซื้อว่าได้มาตรฐานหรือไม่ เนื่องจากแต่ละแหล่งต้นทุนไม่เท่ากัน การเลี้ยงดูต่างกัน การดูแลของผู้ขายต่างกัน บางร้านก็แค่รับมาขายโดยที่เจ้าของร้านไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับการเลี้ยงดูกระต่ายเลย ถ้าร้านไหนบอกว่ากระต่ายแคระจำไว้เลยร้านนั้นหลอกขายกระต่ายเด็ก
การเลี้ยงกระต่ายเราควรเลือกซื้อจากร้านที่ได้มาตรฐานและคนขายมีความรู้ในการดูแล ควรสังเกตลักษณะต่าง ๆ ของกระต่ายให้ละเอียดเพื่อที่เราจะได้กระต่ายที่แข็งแรงสมบูรณ์มาอยู่ด้วยกันเป็นสมาชิกอีกหนึ่งตัวในบ้านนะคะ แล้วอย่าลืมพาน้องกระต่ายไปหาหมอฉีดวัคซีนและถ่ายพยาธิก่อนเลี้ยงกันด้วยน้า
อ่านบทความอื่น ๆ 5 สัญญาณที่บอกว่ากระต่ายกำลังป่วย
ข้อมูลจาก สัตวแพทย์ exotic ประจำโรงพยาบาลสัตว์ตลิ่งชัน