Menu Close

Tips and Tools การดูแลสุขภาพช่องปากสุนัขและแมว

ขนาดคนอย่างเรายังต้องแปรงฟันและทำความสะอาดช่องปากเป็นประจำทุกวัน แล้วเราจะละเลยการดูแลสุขภาพช่องปากของน้องหมาน้องแมวไปได้อย่างไรจริงไหมคะ? เพราะการดูแลช่องปากในสุนัขและแมวถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก หากเจ้าของที่เลี้ยงดูเขาไม่ใส่ใจทุกปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้น สัตว์เลี้ยงอาจเกิดปัญหาช่องปากโดยที่เราไม่รู้ตัว รู้อีกทีโรคเหล่านั้นก็สร้างความเจ็บปวดให้กับน้องหมาน้องแมว แถมอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพโดยรวมของเขาด้วย

“ช่องปากและฟัน” เป็นอวัยวะส่วนแรกที่ทำให้สัตว์เลี้ยงของเราสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ แต่กลับเป็นอวัยวะที่เจ้าของหลายคนไม่ได้ให้ความสำคัญจนกระทั่งน้องหมาน้องแมวแสดงอาการออกมา เช่น เหงือกเจ็บ ปากบวม ฟันโยก ฟันผุ หรือมีอาการเจ็บปวดอย่างรุนแรงจึงค่อยพามาหาสัตวแพทย์ กลายเป็นปัญหาหนักที่ต้องใช้เวลาในการรักษาเพิ่มขึ้น ทั้ง ๆ ที่โรคในช่องปากมีวิธีการดูแลและป้องกันไม่ยากเลยหากเจ้าของสัตว์เลี้ยงมีความรู้และให้เวลาในการดูแล ฉะนั้นถ้าอยากรู้วิธีการดูแลสุขภาพช่องปากเพื่อสร้างสุขอนามัยที่ดีให้กับสุนัขและแมวของเรา ลองมาดูวิธีที่เรานำมาแนะนำกันค่ะ

1.พาสุนัขและแมวมาตรวจสุขภาพช่องปากกับสัตวแพทย์เป็นประจำทุก 6 เดือน หรือ 1 ปี

ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนแรกที่มีความสำคัญมาก สัตวแพทย์จะทำการตรวจเบื้องต้นภายในช่องปากทั้งหมด ในบางกรณีที่สุนัขหรือแมวดุก็อาจต้องทำการวางยาซึมหรือยาสลบเพื่อตรวจอย่างละเอียด สัตวแพทย์จะแจ้งให้ทราบถึงปัญหาที่ตรวจพบและแนะนำการรักษาต่อไป รวมถึงควรพาน้องหมาน้องแมวไปขูดหินปูนเป็นประจำทุก ๆ 6 เดือนถึง 1 ปีเช่นกัน ขึ้นอยู่กับว่าเจ้าของสามารถดูแลสุขภาพช่องปากสุนัขและแมวที่บ้านได้ดีไหม

2.การแปรงฟันเป็นการดูแลสุขภาพเหงือกและฟันพื้นฐานที่ดีที่สุด

4 คำถามยอดฮิตที่เจ้าของสุนัขหรือแมวมักสงสัยเกี่ยวกับการแปรงฟัน คือ

Q : ควรแปรงฟันให้สุนัขและแมวบ่อยแค่ไหน?

A : ควรแปรงฟันให้สุนัขและแมวทุกวันเช่นเดียวกับการแปรงฟันในคน แต่ความเป็นจริงแล้วด้วยข้อจำกัดหลาย ๆ อย่าง เช่น สัตว์เลี้ยงไม่ให้ความร่วมมือหรือเจ้าของไม่ค่อยมีเวลา ก็สามารถแปรงฟันให้น้อง ๆ ได้สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ก็ถือว่าเป็นการดูแลสุขภาพช่องปากที่ดีแล้ว

Q : ยาสีฟันของคนสามารถนำมาใช้กับสุนัขและแมวได้หรือไม่?

A : ไม่ควรใช้ยาสีฟันของคนมาใช้กับสุนัขและแมว เพราะนอกจากสัตว์จะไม่ชอบรสชาติและกลิ่นของยาสีฟันคนแล้ว ยาสีฟันคนยังออกแบบมาเพื่อล้างออกหลังแปรง ไม่ใช่กลืน หากนำมาใช้กับสุนัขและแมวแล้วน้องกลืนเข้าไปอาจเกิดความเป็นพิษจากการกินสารฟลูออไรด์ที่เป็นส่วนผสมในยาสีฟันของคนได้ ดังนั้นจึงควรใช้ยาสีฟันที่ผลิตขึ้นมาเพื่อสุนัขและแมวโดยเฉพาะ ซึ่งจะมีสารออกฤทธิ์เป็นเอ็นไซม์ต่าง ๆ คอยช่วยในการสลายคราบอาหารและคราบจุลินทรีย์บนผิวฟัน แถมยังมีการแต่งกลิ่นเนื้อที่สัตว์เลี้ยงชอบไว้ด้วย ถูกใจน้องหมาน้องแมวแน่นอน

Q : ควรเลือกใช้อุปกรณ์แปรงฟันอย่างไร?

A : แปรงสีฟันที่ใช้ควรมีขนาดพอเหมาะกับขนาดช่องปากของสัตว์และมีขนแปรงที่ไม่แข็งหรืออ่อนนุ่มเกินไปซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ดีที่สุดในการแปรงฟัน ยกเว้นสัตว์บางตัวที่ไม่ชอบแปรงสีฟันอาจเลือกใช้อุปกรณ์อื่น ๆ แทน เช่น แปรงแบบสวมนิ้วมือผ้า

Q : ควรเริ่มแปรงฟันให้สุนัขและแมวเมื่อไหร่?

A : ก่อนเริ่มแปรงฟันควรทำให้สัตว์เลี้ยงของเราคุ้นชินกับยาสีฟันและแปรงสีฟันตั้งแต่ยังเป็นเด็ก อาจเริ่มต้นด้วยการให้เขาดมกลิ่นและชิมรสชาติของยาสีฟันก่อน จากนั้นลองป้ายยาสีฟันลงบนนิ้วมือแล้วสอดนิ้วไปถูฟันด้านข้างกระพุ้งแก้ม เมื่อสัตว์เริ่มคุ้นชินแล้วจึงค่อยเปลี่ยนเป็นใช้แปรงสีฟันหรืออุปกรณ์แปรงฟันอื่น ๆ และควรฝึกแปรงฟันให้เขาอย่างสม่ำเสมอจนเป็นนิสัยด้วยนะคะ

3.ให้อาหารที่ช่วยลดและควบคุมการเกิดหินปูน

อาหารเป็นอีกปัจจัยที่มีความสำคัญต่อสุขภาพฟันของน้องหมาน้องแมว ซึ่งอาหารเม็ดทั่วไปไม่สามารถช่วยลดคราบจุลินทรีย์ได้เท่าอาหารเปียก เพราะอาหารที่จะช่วยดูแลสุขภาพฟันควรมีขนาดและผิวของอาหารที่พอสัตว์เคี้ยวแล้วสามารถสัมผัสกับพื้นผิวฟันได้ดีเพื่อช่วยลดการสะสมของคราบจุลินทรีย์บนผิวฟัน 

4.ให้ของเล่นที่ช่วยให้เกิดการขัดฟัน

เจ้าของสามารถให้สัตว์เลี้ยงที่บ้านเล่นของเล่นที่เหมาะกับขนาดตัวได้ เนื่องจากมีการศึกษาที่พบว่าตัวช่วยเหล่านี้สามารถช่วยลดหินปูนและอาการเหงือกอักเสบในสุนัขและแมวได้ ยกเว้นสัตว์ที่มีปัญหาโรคปริทันต์ที่ไม่ควรให้เล่นของเล่น อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรคปริทันต์

5.ใช้น้ำยาลดคราบหินปูนแบบผสมน้ำดื่มหรือแบบเจลป้ายฟัน

เพื่อช่วยลดคราบจุลินทรีย์และอาการเหงือกอักเสบในสัตว์

การดูแลสุขภาพช่องปากและฟันของสุนัขและแมว หากทำเป็นประจำก็จะทำให้เขาคุ้นชินและเริ่มมีความสุขกับการที่เราดูแลช่องปากให้เขา นอกจากนี้ยังทำให้เกิดสุขอนามัยที่ดีต่อตัวสัตว์เลี้ยงแสนรักของเราด้วย นอกจากน้องหมาน้องแมวจะได้ประโยชน์ทางร่างกายแล้ว ถ้าเราทำให้น้องสนุกได้ก็จะทำให้จิตใจของสัตว์เลี้ยงมีความสุขไปด้วยนะคะ

———————————————————————————–

แหล่งอ้างอิง

Vet Street. (2015). Essential Tips to Care for Your Pet’s Teeth. 

http://www.vetstreet.com/our-pet-experts/essential-tips-to-care-for-your-pets-teeth

Animed. (2021). Top dental care tips for cats and dogs

https://www.animeddirect.co.uk/advice/top-dental-care-tips-cats-dogs/

อ.สพ.ญ.ดร.ธนิกุล ศรีธัญรัตน์. การดูแลสุขภาพฟันที่บ้านในสุนัขและแมว. สืบค้นเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2564 จาก https://www.readvpn.com/Topic/Info/4bf37279-08e3-4cbc-a802-0306396d035c