สิ่งที่คนรักสุนัขหรือคนเลี้ยงสุนัขหลายคนควรรู้คือการพาสุนัขมาฉีดวัคซีนเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อสุขภาพของสุนัขมาก ๆ เพราะเจ้าวัคซีนนี่แหละที่จะเป็นตัวช่วยในการป้องกันโรคร้ายต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น แถมลดโอกาสที่จะเกิดโรคติดต่อได้อีกด้วย สำหรับคนที่กำลังงงว่าแล้วสุนัขจะต้องฉีดวัคซีนเมื่อไหร่ ฉีดวัคซีนอะไรบ้าง ลองมาดูข้อมูลที่เรานำมาฝากกัน
ทำไมสุนัขต้องฉีดวัคซีนทุกปี
ช่วงอันตรายที่จะทำให้ลูกสุนัขเสียชีวิตได้ง่ายก็คือ ตอนอายุช่วง 3 เดือน เพราะภูมิคุ้มกันจากนมแม่ (น้ำนมสีเหลือง) ที่สุนัขทุกตัวจะได้รับในช่วงแรกคลอดจะลดลงเมื่อน้องหมาอายุ 2 เดือน และจะลดต่ำลงเรื่อย ๆ จนไม่สามารถป้องกันโรคได้ ดังนั้นเราจึงต้องเพิ่มภูมิคุ้มกันด้วยการพาสุนัขไปฉีดวัคซีนและฉีดกระตุ้นภูมิทุกปี ปีละครั้ง
เรื่องควรรู้ก่อนพาสุนัขมาฉีดวัคซีน
ก่อนพาสุนัขมาฉีดวัคซีน เราควรตรวจสุขภาพน้องหมาดูก่อนว่าเขาแข็งแรงและไม่ป่วยเป็นโรคใด ๆ ในช่วงดังกล่าว เพื่อให้แน่ใจว่าร่างกายของเขาจะสามารถสร้างภูมิคุ้มกันได้อย่างเต็มที่เมื่อได้รับวัคซีน
สำหรับสุนัขที่มีความเสี่ยงในการติดโรค เช่น ลูกสุนัขที่เกิดจากแม่ที่อ่อนแอ ลูกสุนัขที่ไม่ได้รับนมน้ำเหลืองทันทีหลังคลอด หรือสุนัขที่อยู่ในบริเวณที่มีการระบาดของโรค สุนัขเหล่านี้ต้องได้รับวัคซีนทุกตัว
ควรพาสุนัขมาฉีดวัคซีนเมื่อไหร่
การฉีดวัคซีนให้สุนัขควรเริ่มเข็มแรกที่อายุ 8 สัปดาห์ หรือ 2 เดือน ซึ่งเป็นช่วงที่ลูกสุนัขจะมีระดับภูมิคุ้มกันจากแม่ลดต่ำลงจนไม่สามารถป้องกันโรคได้ ช่วงนี้ลูกสุนัขจึงอาจได้รับเชื้อโรคจนเกิดการเจ็บป่วย ไม่ควรฉีดวัคซีนเร็วเกินไปเพราะระดับภูมิคุ้มกันที่น้องหมายังมีอยู่ก็จะต่อต้านกับเชื้อในวัคซีนและไม่เกิดภูมิคุ้มกันขึ้น ดังนั้น เราจึงควรให้ลูกสุนัขได้รับการฉีดวัคซีนเมื่ออายุประมาณ 2 เดือน ซึ่งเป็นช่วงที่ดีที่สุดสำหรับการฉีดวัคซีน และสุนัขที่โตแล้วควรได้รับวัคซีนปีละ 1 ครั้ง โดยมีโปรแกรมการฉีดวัคซีน ดังนี้
โปรแกรมการฉีดวัคซีนสุนัข
อายุ (สัปดาห์) | ชนิดวัคซีน |
6 สัปดาห์ | ถ่ายพยาธิ และ ตรวจสุขภาพ |
8 สัปดาห์ | วัคซีนรวม 5 โรค (CDV, CAV-2 ,parainfluenza, CPV-2 and leptospira) เข็มที่ 1 |
12 สัปดาห์ | วัคซีนรวมเข็ม 5 โรค (CDV, CAV-2 ,parainfluenza, CPV-2 and leptospira) เข็มที่ 2 วัคซีนพิษสุนัขบ้า(rabies) เข็มที่ 1 |
16 สัปดาห์ | วัคซีนรวมเข็ม 5 โรค (CDV, CAV-2 ,parainfluenza, CPV-2 and leptospira) เข็มที่ 3 และฉีดซ้ำทุกปี วัคซีนพิษสุนัขบ้า(rabies) เข็มที่ 2 และฉีดซ้ำทุกปี |
ทุกปี | วัคซีนรวม วัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า |
วัคซีนรวม 5 โรค
โรคไข้หัดสุนัข (CDV) / โรคตับอักเสบของสุนัข ( CAV-2) / โรคหลอดลมอักเสบของสุนัข ( parainfluenza) / โรคลำไส้อักเสบในสุนัข (CPV-2) / โรคเลปโตสไปโรซีสหรือโรคฉี่หนู ( leptospira)
** ในลูกสุนัขที่ไม่ได้รับ MDA และมีความเสี่ยงในการติดเชื้อสูง เริ่มทำวัคซีนรวม เข็มที่ 1 ที่อายุ 6 สัปดาห์, 10 สัปดาห์, 14 สัปดาห์ และ 18 สัปดาห์ ตามลำดับ
- ถ่ายพยาธิทุก 2 สัปดาห์ จนอายุ 3 เดือน หลังจากนั้นถ่ายทุก 3 เดือน
- ป้องกันพยาธิหนอนหัวใจตั้งแต่อายุ น้อยกว่า 6 เดือน (เริ่มที่อายุ 4 เดือน)
“การฉีดวัคซีนให้สุนัขเป็นประจำทุกปี
จะทำให้สัตว์เลี้ยงมีสุขภาพแข็งแรงและคุณภาพชีวิตที่ดี”
การฉีดวัคซีนเป็นวิธีที่ปลอดภัยและดีที่สุดในการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับสุนัข ทำให้น้องมีภูมิคุ้มกันต่อโรคต่าง ๆ แต่เจ้าของเองก็ควรจะใส่ใจดูแลสภาพแวดล้อมรอบตัวน้องให้สะอาดด้วยเพื่อลดความเสี่ยงในการได้รับเชื้อโรค
อาการข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้จากการฉีดวัคซีน
อาการข้างเคียงของสุนัขที่สามารถพบได้หลังการฉีดวัคซีน คือ สุนัขอาจมีอาการบวม แดง หรือเป็นผื่นบริเวณที่ฉีดวัคซีน (ภายใน 24 ชั่วโมง) บางตัวจะมีอาการซึม อ่อนเพลีย มีไข้ (ภายใน 24-72 ชั่วโมง)
อาการแพ้วัคซีนอื่น ๆ ที่อาจจะพบได้บ้าง คือ อาเจียน ท้องเสีย ตาแดงหรือตาอักเสบ
การดูแลสุนัขหลังได้รับวัคซีน
1.ดูอาการ 30 นาที – 1 ชั่วโมง
หลังจากฉีดวัคซีน ควรให้สุนัขพักดูอาการที่โรงพยาบาลสัตว์อย่างน้อย 30 นาที – 1 ชั่วโมง เพื่อให้แน่ใจว่าอาการปกติ แล้วจึงพากลับบ้านได้
2.งดอาบน้ำ 7 วัน
เมื่อพาน้องหมากลับบ้านแล้วควรงดอาบน้ำให้เป็นเวลา 7 วัน จากนั้นสังเกตอาการของน้องอย่างละเอียด เพราะสุนัขแต่ละตัวจะตอบสนองต่อวัคซีนและสร้างภูมิคุ้มกันต่อโรคแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น อายุ สายพันธุ์ ชนิดของวัคซีน และสุขภาพโดยทั่วไปของสุนัขเอง หลังฉีดวัคซีนแล้วหากสุนัขมีอาการอ่อนเพลีย มีไข้ต่ำ ๆ หรือเบื่ออาหาร ถือเป็นเรื่องปกติ แต่หากหลังจาก 48 ชั่วโมงแล้วอาการดังกล่าวยังคงอยู่ ควรรีบปรึกษาสัตวแพทย์
3.ไม่ควรพาออกนอกบ้านบ่อย ๆ
ก่อนลูกสุนัขจะฉีดวัคซีนครบตามโปรแกรมที่กำหนด เราควรป้องกันไม่ให้ลูกสุนัขมีโอกาสสัมผัสโรค ไม่นำลูกสุนัขออกนอกบ้านบ่อย ๆ หรือพาไปคลุกคลีกับสัตว์ป่วย
4.ฉีดวัคซีนกระตุ้นซ้ำทุกปี
ลูกสุนัขเมื่อได้รับการฉีดวัคซีนแล้วต้องใช้ระยะเวลาอย่างน้อย 5-7 วัน ร่างกายจึงจะเริ่มสร้างภูมิคุ้มกันโรค และต้องได้รับวัคซีนอีกอย่างน้อย 1-2 ครั้ง ถึงจะมีระดับภูมิคุ้มกันโรคเพียงพอ หากมีการติดเชื้อก่อนที่ระดับภูมิคุ้มกันขึ้นสูงเพียงพอที่จะต่อสู้โรคร้ายได้ลูกสุนัขที่ฉีดวัคซีนแล้วก็สามารถเป็นโรคได้
มีเจ้าของสุนัขหลายคนเชื่อว่า ถ้าลูกสุนัขได้รับวัคซีนไปตั้งแต่เล็กแล้วภูมิคุ้มกันนี้จะอยู่ไปตลอดชีวิต แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่อย่างนั้น เราต้องฉีดวัคซีนกระตุ้นอย่างสม่ำเสมอ หากไม่มีการฉีดวัคซีนกระตุ้นเป็นประจำทุกปีสุนัขจะไม่มีภูมิคุ้มกันที่จะป้องกันโรคร้ายแรงบางชนิดได้ และส่วนใหญ่มักพบว่าสัตว์เลี้ยงที่เสียชีวิตด้วยสาเหตุจากโรคร้ายแรงมีอยู่เป็นประจำ ซึ่งเป็นเรื่องน่าเศร้า เพราะโรคเหล่านี้เราสามารถป้องกันได้แค่พาสุนัขมาฉีดวัคซีนประจำปี
ใครที่เลี้ยงสุนัขอย่าลืมพาน้องหมามากระตุ้นวัคซีนกันทุกปีนะคะ สุนัขของเราจะได้สุขภาพแข็งแรง ไม่เจ็บป่วยง่าย การดูแลให้น้องมีสุขภาพดีเป็นเรื่องไม่ยากหากเจ้าของไม่ละเลยการฉีดวัคซีนนะคะ
อ่านบทความอื่น ๆ 10 อาหารต้องห้ามที่ไม่ควรให้สุนัขกิน
แหล่งอ้างอิง
สพ.ญ.อรญา ประพันธ์พจน์ (หมอนุ่น) แผนกอายุรกรรม แผนกศัลยกรรม และแผนกโรคหัวใจ โรงพยาบาลสัตว์ตลิ่งชัน