สิ่งที่เจ้าของหลายคนไม่ชอบมากที่สุดคงเป็นการเห็นลูก ๆ ของตัวเองมีอาการเจ็บป่วย แม้บางครั้งเราจะป้องกันแค่ไหนแต่ความเจ็บป่วยก็เป็นเรื่องที่ห้ามกันไม่ได้ และในเมื่อสัตว์เลี้ยงพูดไม่ได้ เจ้าของอย่างเราจึงมีหน้าที่ต้องคอยสังเกตความผิดปกติของน้อง ๆ ว่ากำลังมีอาการป่วยอยู่รึเปล่าเพื่อที่จะได้พามารักษาได้ทันท่วงที วันนี้เราจึงมีสัญญาณเตือนที่บ่งบอกว่าสัตว์เลี้ยงของเรากำลังป่วยมาให้เจ้าของทุกคนได้สังเกตกันว่าหากน้องมีอาการเหล่านี้แปลว่าน้องหมาน้องแมวของเรามีความผิดปกติแล้ว

1.นอนเยอะ ซึม การตอบสนองลดลง
เวลาสัตว์เลี้ยงป่วยสิ่งที่เห็นชัดที่สุดคือน้อง ๆ จะนอนเยอะมากกว่าปกติเนื่องจากรู้สึกไม่สบายตัว ดูเชื่องช้า ไม่กระฉับกระเฉง การตอบสนองต่อเจ้าของอาจลดลง บางตัวก็หลบซ่อนตัว อาการเหล่านี้อาจขึ้นกับความรุนแรงของอาการป่วยด้วย แต่อายุก็มีความเกี่ยวข้องเพราะสุนัขที่แก่ลงอาจมีอาการเชื่องช้าตามอายุ

2.เบื่ออาหาร กินอาหารน้อยลง
จากที่เคยเจริญอาหารหรือมีอาหารที่ชอบกิน เวลาสัตว์ป่วยจะเริ่มมีอาการไม่อยากอาหาร กินได้น้อยลงหรือไม่กินเลย ถ้าเจ้าของสังเกตดูแล้วพบว่าการเบื่ออาหารของน้องหมาน้องแมวไม่ได้มาจากสภาพแวดล้อมภายนอกที่ทำให้ไม่กินอาหาร เช่น อากาศร้อน หรือ เป็นสัด เจ้าของอาจเริ่มสันนิษฐานไว้ก่อนว่าสัตว์เลี้ยงป่วยและควรพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อวินิจฉัยโรคหรือตรวจรักษาเพิ่มเติมต่อไป

3.กินน้ำเยอะกว่าปกติ
การที่สัตว์เลี้ยงกินน้ำมากกว่าปกติก็เป็นอาการป่วยของโรคบางชนิดได้เหมือนกัน เช่น โรคไต โรคเบาหวาน โรคฮอร์โมน โดยเฉลี่ยแล้วสัตว์เลี้ยงจะกินน้ำปริมาณ 50-70 มิลลิลิตร/กิโลกรัม/วัน ดังนั้นการสังเกตว่าน้องหมาน้องแมวกินน้ำมากกว่าปกติหรือไม่ ผู้เลี้ยงสามารถทราบได้โดยการวัดปริมาณน้ำที่สุนัขกินไปต่อวันว่ามากกว่าปริมาณที่ได้กล่าวไปหรือไม่

4.น้ำหนักตัวลดลงเร็ว
เมื่อสัตว์เลี้ยงป่วยและกินอาหารได้ลดลง สิ่งที่ตามมาก็คือน้ำหนักตัวของน้อง ๆ ก็จะลดลงอย่างรวดเร็วเช่นกัน เจ้าของควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจสอบว่าสัตว์เลี้ยงมีความผิดปกติอะไร เพราะการที่น้ำหนักตัวลดลงสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ป่วยเลยเบื่ออาหาร ไม่กินอาหาร ทำให้น้ำหนักตัวลด หรือยังอยากกินอาหารอยู่แต่ไม่สามารถกินได้เพราะมีปัญหาเรื่องช่องปากหรือทางเดินอาหาร หรือกินได้ปกติแต่น้ำหนักตัวกลับลดลง เป็นต้น

5.มีอาการไอหรือหายใจผิดปกติ
เมื่อเจ้าของพบว่าน้องหมาน้องแมวมีอาการไอหรือหอบควรสังเกตดูลักษณะของการไอหรือหอบด้วย ซึ่งการไอนั้นอาจเป็นอาการของโรคร้ายแรงได้หลายโรค เช่น โรคหัวใจ โรคระบบทางเดินหายใจ โรคพยาธิหัวใจ อีกทั้งอาจสังเกตลักษณะอาการไอ ว่าเป็นการไอแบบไหน เช่น ไอแห้ง ๆ หรือไอเหมือนมีอะไรติดคอ เพราะจะเป็นตัวช่วยบอกได้ว่าสัตว์เลี้ยงมีอาการมาจากสาเหตุใดและบอกความรุนแรงของโรคได้ และหากมีอาการหายใจลำบากหรือหอบร่วมด้วย แนะนำว่าให้รีบพาไปหาสัตวแพทย์โดยเร็วที่สุด

6.อาเจียน
ผู้เลี้ยงควรสังเกตว่าเมื่อไหร่ที่สัตว์เลี้ยงมีอาการอาเจียนบ้าง อาเจียนบ่อยแค่ไหน และสิ่งที่อาเจียนออกมาคืออะไร สัมพันธ์กับการกินอาหารหรือไม่ รวมถึงสังเกตนิสัยของสัตว์เลี้ยงว่าชอบกินหรือแทะสิ่งแปลกปลอมไหม เมื่อพบว่าสัตว์เลี้ยงมีอาการอาเจียนบ่อย กินอาหารไม่ได้ แล้วน้ำหนักลดลง จึงควรพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุต่อไป

7.มีไข้
การที่อุณหภูมิร่างกายของสัตว์เลี้ยงสูงขึ้นเป็นตัวบ่งบอกว่าสัตว์เลี้ยงอาจมีภาวะอาการป่วยที่มีอาการติดเชื้อที่ภายในร่างกาย แต่ควรต้องเช็คให้แน่นอนก่อนว่าสัตว์เลี้ยงมีไข้โดยการจับบริเวณด้านในใบหูว่ารู้สึกอุ่นหรือร้อนกว่าปกติไหม เพราะหากจับที่ส่วนท้องหรือตามตัวอุณหภูมิอาจมีการแปรผันตามสภาพอากาศภายนอกได้ หรืออีกวิธีคือการใช้ปรอทวัดไข้สำหรับสัตว์เลี้ยงเสียบเข้าไปที่รูทวาร วัดไข้น้องหมา น้องแมวด้วยตัวเอง ไม่ง้อหมอ แต่หมอเป็นคนสอนวัดนะ😅 โดยอุณหภูมิในตัวสุนัขไม่ควรสูงถึงหรือสูงกว่า 39.5 องศาเซลเซียส และแมวไม่ควรเกิน 40 องศาเซลเซียสหรือต่ำกว่า 37 องศาเซลเซียส ถ้าพบความผิดปกติควรพาไปพบสัตวแพทย์ทันที

8.ท้องเสีย
ปัญหาท้องเสียถือเป็นสัญญาณเตือนของอาการสัตว์ป่วยที่สังเกตได้ง่ายและชัดเจนมาก สำหรับวิธีสังเกตว่าสุนัขท้องเสีย ให้สังเกตจากลักษณะอุจจาระว่าถ่ายเหลวหรือถ่ายเป็นน้ำหรือไม่ และให้สังเกตจากความถี่ในการถ่าย ถ้าถ่ายเหลวหรือถ่ายเป็นน้ำมากกว่าวันละ 3 ครั้ง ถือว่าสุนัขมีอาการผิดปกติแล้ว

การสังเกตพฤติกรรมของสัตว์เลี้ยงในแต่ละวันถือเป็นเรื่องสำคัญที่เจ้าของไม่ควรละเลย หากไม่แน่ใจว่าอาการที่สัตว์เลี้ยงเป็นอยู่คืออาการป่วยหรือไม่ก็สามารถพามาพบสัตวแพทย์เพื่อวินิจฉัยได้ เกิดน้องหมาน้องแมวมีอาการป่วยจะได้พามารักษาได้ทัน น้อง ๆ จะได้อยู่กับพวกเราไปอีกนานนะคะ
ข้อมูลจาก
สพ.ญ.อรญา ประพันธ์พจน์ (หมอนุ่น) โรงพยาบาลสัตว์ตลิ่งชัน